วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

"กิมจิ "

เครื่องเคียงที่อยู่บนโต๊ะอาหารเกาหลีทุกมื้อ

Cr. http://www.platingsandpairings.com/kimchi-kimchee/

       กิมจิเป็นเครื่องเคียงของประเทศเกาหลี กิมจิมีหลายชนิด แต่ชนิดที่ทุกคนต้องรู้จักคงหนีไม่พ้น "กิมจิผักกาดขาว" นอกจากจะเป็นเครื่องเคียงแล้ว กิมจิถูกนำไปทำอาหารหลากหลายชนิด เช่น แกงกิมจิ บูแดจิแก แพนเค้กกิมจิ และอีกสารพัดเมนู วันนี้ "อาโหล" เลยจะนำวิธีทำกิมจิที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งมาบอก สูตรนี้เป็นสูตรของอาเจ้ "maangchi" อาเจ้จากเกาหลีเจ้าของคลิปทำอาหารเกาหลีบรรยายภาษาอังกฤษในเว็บ Youtube เราได้ปรับสูตรนิดหน่อยตามวัตถุดิบที่เราสามารถหาได้ แต่หลักๆ ก็ยังถือว่าเป็นสูตรของอาเจ้แกอยู่ เราจึงขออนุญาตนำสูตรของ "maangchi" มาแปลและแปลง(นิดหน่อย)ให้เพื่อนๆ ได้นำไปเสริมสร้างความเป็นเกาหลีให้ตัวเองกัน รูปประกอบก็ขออนุญาตนำมาจากเว็บเกาหลีอีกเช่นเคย เพราะเราเพิ่งทำกิมจิตอนเดือนสิงหาคม ยังกินไม่หมด ให้ทำอีกก็ไม่ไหว ของเก่ายังเหลือบานเลย พล่ามมานานแล้วก็ขอเริ่มเลยแล้วกันเนอะ


ส่วนผสม

  • ผักกาดขาว 2 กิโลกรัม 3 ขีด
  • เกลือ 1/2 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย
  • แป้งข้าวเหนียว 8 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1/2 ถ้วย
  • พริกป่นเกาหลี 1 1/4 ถ้วย
  • กระเทียม 1/2 ถ้วย
  • ขิง 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมใหญ่สับ 1/2 ถ้วย
  • ต้นหอม 5 ต้น
  • หัวไชเท้า 1 ถ้วย
  • แครอท 1/4 ถ้วย

วิธีทำ

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

1. หั่นผักกาดเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีลงแช่น้ำในอ่าง ล้างให้สะอาดแล้วเขาขึ้นจากน้ำ โรยเกลือสลับกับผักกาดเป็นชั้นๆ กลับผักกาดทุกๆ 30 นาที ใช้เวลาแช่เกลือ 1 ชั่วโมงครึ่ง


Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

2. นำผักกาดที่ผ่านการแช่เกลือมาล้างในน้ำ 3 ครั้ง พักไว้

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

3. ทำแป้งเปียกด้วยการผสมน้ำเปล่ากับแป้งข้าวเหนียวแล้วคนให้เข้ากัน นำไปตั้งบนเตาแล้วคนไปเรื่อยๆ จนเป็นฟอง (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) เติมน้ำตาลแล้วกวนจนใส ปิดไฟ แล้วนำหม้อแป้งเปียกไปแช่ในอ่างใส่น้ำให้แป้งเปียกเย็นตัวลง


Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

4. นำกระเทียม น้ำปลา ขิง หัวหอมใหญ่สับใส่ลงไปในโถปั่น ปั่นให้ละเอียดแล้วเทลงในอ่างผสม

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

5. นำแป้งเปียกที่เย็นตัวลงแล้วเทลงไปในอ่างผสม 

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

6. เติมพริกป่นเกาหลีลงในอ่าง

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

7. หั่นต้นหอมให้เป็นชิ้น ซอยหัวไชเท้าและแครอทให้เป็นเส้นฝอย แล้วนำผักทั้งหมดใส่ลงไปในอ่างผสม ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

8. นำผักกาดมาคลุกกับน้ำพริกกิมจิในอ่างผสม ถ้าอ่างผสมมีขนาดเล็กให้แบ่งคลุกทีละน้อย

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

9. ใส่กิมจิลงในขวดโหล หรือกล่องใส่อาหาร ผิดฝาให้แน่น
วางกิมจิไว้ที่อุณภูมิห้องประมาณ 1 วันก็จะเกิดการหมักและมีรสเปรี้ยว ใช้ช้อนกดกิมจิลงเพื่อไล่อากาศออกก่อนนำเข้าไปเก็บไว้ในตู้เย็น

Cr. http://steamykitchen.com/41429-kimchi-ramen-recipe.html

       กิมจิที่ทำเสร็จเอามากินแกล้มกับมาม่าคืออร่อยมาก ตอนที่กินครั้งแรกเราเข้าใจความรู้สึกของคนเกาหลี(จาหหนังหรือซีรีส์เกาหลี)เลยว่าทำไมกินมาม่าแล้วต้องมีกิมจิ สั้นๆ เลย ม่าต้องคู่กับกิมจิ ลองดูแล้วจะติดใจ!

       เราเคยแกงกิมจิใส่ปลาช่อนสดที่บ้าน(เพราะแม่บังคับ) ปรากฏว่าพอใส่เครื่องปรุงพวกรสดี น้ำตาล น้ำเปล่าแล้วเหมือนกินแกงส้มเลย อร่อยแถมไม่ยุ่งยากเหมือนทำแกงส้ม กิมจิที่ใส่ลงไปก็ไม่ทำให้น้ำแกงจืด และมีกลิ่นผักกาด คือดีงามเป็นที่สุด

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

       หรือกินกับข้าวเปล่าๆ ก็ยังโอเคอยู่นะ ถ้ากิมจิเปรี้ยวไปนิดก็เติมน้ำปลาหน่อยก็แล้วกัน

Tip : 1. ผักกาดที่นำมาทำควรนำมาทำกิมจิควรมีลักษณะหัวใหญ่ ใบยังไม่เป็นสีเขียว เนื้อแน่นไม่หลวม ถ้ากดดูแล้วแน่นๆ ก็ถือว่าผ่าน พอนำไปแช่เกลือแล้วจะมีรสหวานหน่อยๆ ไม่เหม็นเขียว ผักกาดแบบนี้จะทำกิมจิอร่อยกว่าแบบหัวเล็ก ไม่แน่น ใบเขียวๆ 
         2. การหมักจนเกิดรสเปรี้ยวจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ถ้าอากศร้อนกิมจิจะเปรี้ยวเร็ว ถ้าอากาศเย็นก็จะต้องใช้เวลาหมักนานขึ้นอีกนิด 



ขอขอบคุณภาพและสูตรอาหารจากเว็บไซต์
http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi
http://www.platingsandpairings.com/kimchi-kimchee/
http://steamykitchen.com/41429-kimchi-ramen-recipe.html



หากมีเนื้อหาผิดพลากประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น