วันอาทิตย์ที่ 25 กันยายน พ.ศ. 2559

가래떡 (Korean Rice Cake) 

แป้งต็อกโบกิโฮมเมด

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c

        가래떡 อ่านว่า คาแรต็อก ภาษาอังกฤษ คือ Korean Rice Cake แปลไทยแบบมึนๆ คือ "เค้กข้าวเกาหลี" ฟังกี่ที อ่านก็ครั้งเราก็ยังมึนกับชื่อนี้ "เค้ก" แต่ไม่เห็นเหมือนเค้กตรงไหน รูปร่างหน้าตาก็ห่างไกลกับเค้กแบบอื่นๆ รสชาติก็ไม่ได้เหมือนเล้ย กินดูก็หนึบๆ และหวานนิดๆ (นิดเดียวจริงๆ)ถ้าเป็นกรณีที่ทำจากข้าวจริงๆ ไม่ใช่แป้งข้าวจ้าวของเกาหลี(อันนี้ยังไม่เคยกินจ้ะ) แต่ก็ถือได้ว่า "แป้งต็อก" เป็นสิ่งที่คอเกาหลีหลายคนตามหามานาน...แส้น...นานนนนนน
        อย่าบอกว่าคนเขียนเว่อร์เชียว "แค่แป้งต็อกจะหายากอะไรขนาดนั้น" นี่คือคำถามที่ไม่ต้องการคำตอบ แต่เราจะตอบให้เธอทั้งหลายฟังว่าทำไมเราถึงกับต้องใช้คำว่า "ตามหา" ราวกับตามหาเนื้อคู่ แต่เนื้อคู่ก็ถือว่าหาได้ยากเย็นกว่าแป้งต็อกหลายพันเท่านัก กลับมาๆ กลับมาที่เหตุผล เหตผลนั้นคือ...
        1. เราไม่ได้อยู่เกาหลี 
        2. เราไม่ได้อยู่ใกล้ห้างใหญ่ๆ ที่ขายวัตถุดิบเกาหลี 
        3. เรามีโอกาสเจอแป้งต็อกที่แมคโครครั้งหนึ่ง แต่ตอนนั้นกระเป๋าเงินแฟบ ต้องรอต่อไป พอจะไปสอยมาก็ปรากฏว่า...แมคโครสาขานั้นเลิกขายมันไปแล้ว ตอนนั้นคือ เซ็ง
       4. สั่งออนไลน์ก็ไม่ไหวกับค่าส่งอีก เป็นต้น

       แล้วสุดท้ายเราก็รอไม่ไหว เลยหาสูตรจากเน็ต ก็เจอนะ แต่เขาใช้แป้งข้าวจ้าวของเกาหลีที่ไม่มีความเหมือนหรือคล้ายกับแป้งบ้านเราซักนิด (ทำมาแล้ว เรียกว่าเฟลไปตามๆ กันทั้งเราทั้งเพื่อนที่ชิม) เราไม่สามารถหาแป้งข้าวจ้าวแบบที่ว่าได้ สุดท้ายเราเลย...ทำแป้งข้าวจ้าวสำหรับทำแป้งต็อกเองซะเลย

แป้งข้าวเจ้าโฮมเมด สู่แป้งต็อกทำมือ!!!

วัตถุดิบที่ใช้
1. ข้าวญี่ปุ่น 1 1/2 ถ้วยตวง
2. น้ำเปล่า
3. เกลือ 1/2 ช้อนชา

วิธีทำ
1. นำข้าวญี่ปุ่น 1 1/2 ถ้วยตวงมาแช่น้ำไว้ข้ามคืน
2. นำข้าวพักใส่ตะแกรงไว้ให้สะเด็ดน้ำ
3. นำข้าวญี่ปุ่นมาใส่ในโถปั่นไฟฟ้า ปั่นให้ละเอียด หรือใช้ครกตำให้ละเอียดก็ได้ 

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c

4. ใช้ตะแกรงร่อนข้าวญี่ปุ่นเอาที่เป็นแป้งลงไปในอ่างผสม เติมเกลือลงไป

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c

5. เทน้ำเดือดใส่แป้งในอ่างผสม กะปริมาณดีๆ อย่าให้แป้งเหลวเกินไป ใช้เทคนิคเททีละน้อยเพื่อความชัวร์
Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c

6. ใช้ทัพพีคนให้แป้งกับน้ำผสมเข้ากันให้ทั่ว แป้งที่ได้จะไม่ได้เป็นเนื้อเดียวกันแบบเนียนสวย

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c


7. นำแป้งที่ได้ไปนึ่งในลังถึงที่ตั้งน้ำไว้จนเดือด ใช้กระดาษไขหรือผ้าขาวบาง ใช้เวลานึ่งประมาณ 45 นาที 

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c

8. ทาน้ำมันงาบนเขียงหรือถาดขนาดกลางเพื่อป้องกันแป้งติด ใช้ทัพพีตักแป้งออกจากลังถึงมาวางบนถาด ใช้ไม้นวดแป้งกดลงบนแป้งไปมา นวดๆ คลึงๆ จนแป้งเข้ากันเป็นเนื้อเดียวกัน 

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c

9. คลึงแป้งให้เป็นแท่งยาวเพื่อตัดเป็นท่อนๆ หรือจะเป็นแท่งใหญ่ๆ เพื่อสไลด์ให้เป็นแผ่นก็ได้ หรือจะปั้นเป็นก้อนกลมๆ ก็ได้ 

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c

10. นำแป้งต็อกที่ได้ไปแช่เก็บไว้ในตู้เย็น


Tip
      แป้งต็อกก้อนกลมสามารถนำไปย่างในกระทะเทปล่อนให้เหลืองกรอบแล้วราดน้ำผึ้งได้ เราก็จะได้แป้งต็อกกลมๆ สีเหลืองทอง กรุบกรอบและมีกลิ่นหอมข้าวปิ้ง อร่อยเริ่ดไปเลย

Cr. https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c


ปล. เราเคยทำแป้งต็อกมาแล้วหลาย 2 ครั้ง สูตรนี้เป๊ะเว่อร์ แต่เราดันถ่ายรูปไว้เฉพาะตอนทำเป็นต็อกโบกินี่ดิ ดูภาพประกอบจ้ะ


แลดูน้ำเยอะมาก มันมีสาเหตุมาจากคิดว่าเราต้องปรุงน้ำซุปให้อร่อยก่อนโดยลืมไปว่า แท้จริงแล้วซอสต็อกโบกิที่ทำไว้มันพอดีแล้ว สุดท้ายเลยต้องเติมน้ำตามระเบียบ แต่โดยสรุปคือ...อร่อยเหาะ!



ขอบคุณวิธีทำและรูปประกอบจากยูทูป 
เข้าไปดูได้ที่ https://www.youtube.com/watch?v=pZ1__jdcH0c


ขอบคุณที่รับชม
หากผิกพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้

วันพฤหัสบดีที่ 22 กันยายน พ.ศ. 2559

백설기 แพคซอลกี 
เค้กวันเกิดสไตล์เกาหลี๊...เกาหลี

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/baekseolgiddeok


        สืบเนื่องมาจากเมื่อวันที่ 20 เดือนกันยายนที่ผ่านมา ซึ่งเราก็ขอเล่านิดนึงว่า... 
        ตอนนั้นคือก็ไม่ได้รู้หรือสังเกตอะไรในการที่เพื่อนสองนางได้ขอตัวออกไปข้างนอกซักนิดตอนสองทุ่มกว่าๆ (?) นางบอกแค่ว่า "จะไปหาผู้ชาย" เราก็ประมาณ "จะไปไหนก็ไปเหอะ ซักพักทั้งสองนางก็กลับมา เราก็งงว่าทำไมกลับมาเร็ว เรื่องผู้ชายนี่จำเป็นต้องไปเร็วเครมไวอะไรขนาดนี้เหรอ แต่สุดท้ายเราก็คิดแค่ว่า "เรื่องของมัน ไม่เกี่ยวกับเรา" ก็นั่งแทะฝรั่งต่อไป แต่เพื่อนที่นั่งข้างเรามันดันนึกอุตริปิดไฟ เราก็อะไร จะแกล้งอิสองตัวนั้นหรอ? แล้วซักพักอิสองตัวนั่นแทนที่มันจะโหวกเหวกโวยวายมองไม่เห็นทาง มันดันร้องเพลงวันเกิด
         "แฮปปี้เบิร์ธเดย์ ทูยู..." อิสองตัวนั่นก็ร้องเพลงวันเกิด ส่วนเราก็งงๆ วันเกิดใครวะ แต่ไม่ได้กระเหี้ยนกระหือรืออยากรู้ เลยไม่ได้หันกลับไปมองอิสองตัวนั่นที่กำลังร้องเพลงวันเกิดอย่างร่าเริงต่อไป
        "ป๊อป วันเกิดมึ*หรอ" เราก็ถามขึ้นมาอย่างสงสัย หันไปมองหน้าเพื่อนในความมืด ก็ไม่ได้คิดว่าเพื่อนมันเกิดวันนี้นะ แต่จำได้ว่าเรากับเพื่อนอีกคนก็ไม่ได้เกิดวันนี้เหมือนกัน เพราะงั้นคงเป็นเพื่อนคนนี้แหละ
        "เออ วันเกิด*ูนี่แหละ" เราก็อ๋อวันเกิดเพื่อน เราเลยหลบมุมเพื่อให้อิสองตัวมันอัญเชิญเค้กวันเกิดไปให้เจ้าของวันเกิด แต่อิสามตัวนี่ดันหลุดหัวเราะเสียงดังแล้วบอกเราว่า
        "นี่เค้กวันเกิดมึ*ต่างหาก เอ้าอธิษฐานแล้วเป่าเทียน" เราก็คิดในใจว่า อ๋อวันเกิดย้อนหลังนี่เอง แต่เราติดปัญหาตรงที่...
        "กูคิดคำอธิษฐานไม่ออกอ่ะ เป่าเลยได้ป่ะ พอดีกูไม่ได้เตรียมใจมา"
        "อธิษฐานก่อนค่อยเป่า" อิพวกนี้ก็ยังย้ำคำเดิม เราก็ยังคิดไม่ออก เทียนก็ไหม้ต่อไป ถ้าเราไม่รีบเป่าเทียน เค้กสตรอว์เบอรี่นี่เปลี่ยนเป็นเค้กหน้าน้ำตาเทียนแน่ เราก็เลยอธิษฐานไปว่า..."ขอให้เราได้เป็นเพื่อนกันตลอดไป ขอให้มีความสุข..." นอกจากนี้คือลืมแล้ว แต่จำได้ว่ามันเป็นคำอธิษฐานพื้นๆ เท่านั้น
        เป่าเทียนเสร็จเราก็เคลียร์พื้นที่กันอยู่พักใหญ่ ไม่มีใครยอมกิน ผ่านไปนานเป็นชาติเศษถึงมีคนยอมกิน พอกินเข้าไปเราก็ลงความเห็นกันประมาณว่า "ก็กินได้ แต่ไม่ได้อร่อยชนิดที่กิดหมดได้ในครั้งเดียว กินได้แบบฝืนนิดๆ" สุดท้ายเราเลยตกลงกันว่าเล่นหมุนขวดหาคนกินเค้ก ตักทีนี่ล้นช้อนแกงกันสุดฤทธิ์ กินเข้าไปด้วยความลำบากกายและใจกันสุดๆ และในที่สุดมันก็หมดอย่างที่ตั้งใจไว้ ในสภาพที่ผู้ร่วมงานอยู่ในอาการเมาครีมเค้ก


นี่คือหน้าตาเค้กหลังจากผ่านการเล่นเกมไป 2-3 รอบ

        วันเกิดทั้งทีเราก็อยากมีโมเม้นทำเค้กเซอร์ไพรส์เพื่อน เซอร์ไพรส์แฟน อยากถือเค้กก้อนโตๆ ปักเทียนวันเกิดบ้าง แต่ติดอยู่ที่อุปสรรค์อันใหญ่หลวงคือ...


ไม่มีเตาอบ!!!


        เราเลยขอเสนอเมนูเค้กนึ่งสไตล์เกาหลี ซ้อมมือไว้เผื่อมีโอปป้าเกาหลีมาตกหลุมที่เราขุดรอไว้ จะได้โชว์สกิลความเป็นแม่ศรีเรือนให้โอปป้าได้เห็นว่าหญิงไทยอย่างเราๆ สามารถเข้าครัวเกาหลีได้นะจ๊ะ 
          สูตรนี้นำมาจากเว็บเกาหลีของ Maang

วัตถุดิบที่ต้องใช้
  • แป้งข้าว(เจ้าเกาหลี)* 4 ถ้วยตวง กับอีก 1 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 1/4 ถ้วยตวง
  • น้ำเปล่า 1/4 ถ้วยตวง
  • เกลือ 1 ช้อนชา
  • ผลไม้อบแห้งและถั่วต่างๆ
วิธีทำ

1. นำแป้ง เกลือใส่ลงในอ่างผสม เทน้ำลงไปในอ่างผสม ใช้มือคนส่วนผสมให้เข้ากัน แป้งจะจับเป็นก้อนๆ ให้ใช้มือทั้งสองข้างยีแป้งให้แตกเป็นผงๆ 
2. นำแป้งในอ่างผสมมาร่อนผ่านตะแกรงโดยใช้ทัพพีคนๆ ให้แป้งผ่านช่องตะแกรงลงไปในอ่างผสมอีกใบ
3.ลองเอามือบีบแป้งให้เป็นก้อนแล้วทิ้งลงในอ่างผสม ถ้าแป้งยังคงเป็นก้อนก็ถือว่าผ่าน แต่ถ้าแตกเป็นชิ้นๆ ให้เติมน้ำอีกแล้วร่อนแป้งอีกครั้ง
4. ใส่น้ำตาลลงไปในอ่างผสมแป้งแล้ว่อนแป้งอีกครั้ง
5. เอาผ้าขาวบางรองบนลังถึงก่อนจะวางพิมพ์เค้กแบบถอดก้นพิมพ์ได้ ลงไปบนถ้าขาว(ตอนนี้คือถอดก้นพิมพ์ออกแล้ว
6. ใส่แป้งลงไปในพิมพ์เค้กแล้วเกลี่ยให้หน้าเค้กเสมอกัน 

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/baekseolgiddeok

7. แต่งหน้าเค้กด้วยผลไม้อบแห้งแล้วนำไปนึ่ง บนหม้อที่ตั้งน้ำเดือดรอไว้แล้ว นึ่งประมาณ 30 นาที
Cr. http://www.maangchi.com/recipe/baekseolgiddeok

8. เมื่อเค้กสุกแล้วให้นำเค้กออกจากพิมพ์เค้ก จัดเสิร์ฟได้เลย

มาดูเค้กข้าวแบบอื่นกันบ้าง
Cr. http://mitem.gmarket.co.kr/Item?goodsCode=666500552

Cr. http://ricepickup.tistory.com/7

Cr. http://changeok.co.kr/product/prod_detail.asp?prod_code=PA00076


Tip
        ถ้าไม่มีแป้งข้าวเจ้าของเกาหลีสามารถใช้ข้าวญี่ปุ่นแทนได้ค่ะ นำมาแช่น้ำไม่ประมาณ 2-3 ชั่วโมงแล้วน้ำมาปั่นด้วยเครื่องปั่นไฟฟ้าให้ละเอียดแล้วร่อนผ่านตะแกรง แบบนี้จะได้แป้งที่ดีกว่าใช้แป้งข้าวจ้าวบ้านเราผสมกับแป้งข้าวเหนียวค่ะ หรือจะใช้ครกกับสากแทนเครื่องปั่นไฟฟ้าก็ได้ ถ้ามีความสามารถเพียงพอ อันนี้นี้ก็ไม่ว่ากัน ถือว่าออกกำลังกายไปในตัว


ไปดูสูตรเต็มได้ที่นี่ค่ะ
http://www.maangchi.com/recipe/baekseolgiddeok

ขอบคุณที่รับชม
หากผิดพลาดประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้

วันศุกร์ที่ 16 กันยายน พ.ศ. 2559

"กิมจิ "

เครื่องเคียงที่อยู่บนโต๊ะอาหารเกาหลีทุกมื้อ

Cr. http://www.platingsandpairings.com/kimchi-kimchee/

       กิมจิเป็นเครื่องเคียงของประเทศเกาหลี กิมจิมีหลายชนิด แต่ชนิดที่ทุกคนต้องรู้จักคงหนีไม่พ้น "กิมจิผักกาดขาว" นอกจากจะเป็นเครื่องเคียงแล้ว กิมจิถูกนำไปทำอาหารหลากหลายชนิด เช่น แกงกิมจิ บูแดจิแก แพนเค้กกิมจิ และอีกสารพัดเมนู วันนี้ "อาโหล" เลยจะนำวิธีทำกิมจิที่เคยทำมาแล้วหลายครั้งมาบอก สูตรนี้เป็นสูตรของอาเจ้ "maangchi" อาเจ้จากเกาหลีเจ้าของคลิปทำอาหารเกาหลีบรรยายภาษาอังกฤษในเว็บ Youtube เราได้ปรับสูตรนิดหน่อยตามวัตถุดิบที่เราสามารถหาได้ แต่หลักๆ ก็ยังถือว่าเป็นสูตรของอาเจ้แกอยู่ เราจึงขออนุญาตนำสูตรของ "maangchi" มาแปลและแปลง(นิดหน่อย)ให้เพื่อนๆ ได้นำไปเสริมสร้างความเป็นเกาหลีให้ตัวเองกัน รูปประกอบก็ขออนุญาตนำมาจากเว็บเกาหลีอีกเช่นเคย เพราะเราเพิ่งทำกิมจิตอนเดือนสิงหาคม ยังกินไม่หมด ให้ทำอีกก็ไม่ไหว ของเก่ายังเหลือบานเลย พล่ามมานานแล้วก็ขอเริ่มเลยแล้วกันเนอะ


ส่วนผสม

  • ผักกาดขาว 2 กิโลกรัม 3 ขีด
  • เกลือ 1/2 ถ้วย
  • น้ำเปล่า 1 1/2 ถ้วย
  • แป้งข้าวเหนียว 8 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำตาล 2 ช้อนโต๊ะ
  • น้ำปลา 1/2 ถ้วย
  • พริกป่นเกาหลี 1 1/4 ถ้วย
  • กระเทียม 1/2 ถ้วย
  • ขิง 1 ช้อนโต๊ะ
  • หอมใหญ่สับ 1/2 ถ้วย
  • ต้นหอม 5 ต้น
  • หัวไชเท้า 1 ถ้วย
  • แครอท 1/4 ถ้วย

วิธีทำ

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

1. หั่นผักกาดเป็นชิ้นๆ ขนาดพอดีลงแช่น้ำในอ่าง ล้างให้สะอาดแล้วเขาขึ้นจากน้ำ โรยเกลือสลับกับผักกาดเป็นชั้นๆ กลับผักกาดทุกๆ 30 นาที ใช้เวลาแช่เกลือ 1 ชั่วโมงครึ่ง


Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

2. นำผักกาดที่ผ่านการแช่เกลือมาล้างในน้ำ 3 ครั้ง พักไว้

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

3. ทำแป้งเปียกด้วยการผสมน้ำเปล่ากับแป้งข้าวเหนียวแล้วคนให้เข้ากัน นำไปตั้งบนเตาแล้วคนไปเรื่อยๆ จนเป็นฟอง (ใช้เวลาประมาณ 5 นาที) เติมน้ำตาลแล้วกวนจนใส ปิดไฟ แล้วนำหม้อแป้งเปียกไปแช่ในอ่างใส่น้ำให้แป้งเปียกเย็นตัวลง


Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

4. นำกระเทียม น้ำปลา ขิง หัวหอมใหญ่สับใส่ลงไปในโถปั่น ปั่นให้ละเอียดแล้วเทลงในอ่างผสม

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

5. นำแป้งเปียกที่เย็นตัวลงแล้วเทลงไปในอ่างผสม 

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

6. เติมพริกป่นเกาหลีลงในอ่าง

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

7. หั่นต้นหอมให้เป็นชิ้น ซอยหัวไชเท้าและแครอทให้เป็นเส้นฝอย แล้วนำผักทั้งหมดใส่ลงไปในอ่างผสม ผสมทุกอย่างให้เข้ากัน

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

8. นำผักกาดมาคลุกกับน้ำพริกกิมจิในอ่างผสม ถ้าอ่างผสมมีขนาดเล็กให้แบ่งคลุกทีละน้อย

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

9. ใส่กิมจิลงในขวดโหล หรือกล่องใส่อาหาร ผิดฝาให้แน่น
วางกิมจิไว้ที่อุณภูมิห้องประมาณ 1 วันก็จะเกิดการหมักและมีรสเปรี้ยว ใช้ช้อนกดกิมจิลงเพื่อไล่อากาศออกก่อนนำเข้าไปเก็บไว้ในตู้เย็น

Cr. http://steamykitchen.com/41429-kimchi-ramen-recipe.html

       กิมจิที่ทำเสร็จเอามากินแกล้มกับมาม่าคืออร่อยมาก ตอนที่กินครั้งแรกเราเข้าใจความรู้สึกของคนเกาหลี(จาหหนังหรือซีรีส์เกาหลี)เลยว่าทำไมกินมาม่าแล้วต้องมีกิมจิ สั้นๆ เลย ม่าต้องคู่กับกิมจิ ลองดูแล้วจะติดใจ!

       เราเคยแกงกิมจิใส่ปลาช่อนสดที่บ้าน(เพราะแม่บังคับ) ปรากฏว่าพอใส่เครื่องปรุงพวกรสดี น้ำตาล น้ำเปล่าแล้วเหมือนกินแกงส้มเลย อร่อยแถมไม่ยุ่งยากเหมือนทำแกงส้ม กิมจิที่ใส่ลงไปก็ไม่ทำให้น้ำแกงจืด และมีกลิ่นผักกาด คือดีงามเป็นที่สุด

Cr. http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi

       หรือกินกับข้าวเปล่าๆ ก็ยังโอเคอยู่นะ ถ้ากิมจิเปรี้ยวไปนิดก็เติมน้ำปลาหน่อยก็แล้วกัน

Tip : 1. ผักกาดที่นำมาทำควรนำมาทำกิมจิควรมีลักษณะหัวใหญ่ ใบยังไม่เป็นสีเขียว เนื้อแน่นไม่หลวม ถ้ากดดูแล้วแน่นๆ ก็ถือว่าผ่าน พอนำไปแช่เกลือแล้วจะมีรสหวานหน่อยๆ ไม่เหม็นเขียว ผักกาดแบบนี้จะทำกิมจิอร่อยกว่าแบบหัวเล็ก ไม่แน่น ใบเขียวๆ 
         2. การหมักจนเกิดรสเปรี้ยวจะขึ้นอยู่กับอุณหภูมิ ถ้าอากศร้อนกิมจิจะเปรี้ยวเร็ว ถ้าอากาศเย็นก็จะต้องใช้เวลาหมักนานขึ้นอีกนิด 



ขอขอบคุณภาพและสูตรอาหารจากเว็บไซต์
http://www.maangchi.com/recipe/easy-kimchi
http://www.platingsandpairings.com/kimchi-kimchee/
http://steamykitchen.com/41429-kimchi-ramen-recipe.html



หากมีเนื้อหาผิดพลากประการใด ขออภัยไว้ ณ ที่นี้


วันพุธที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2559

ทักบัล (닭발) ตีนไก่สไตล์เกาหลี

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

        ทักบัล (닭발) แปลแบบตรงๆ และมึนๆ ตามสไตล์ "อาโหล" คือ ตีนไก่ ชื่อภาษาเกาหลีเมนูนี้นี่ไม่ค่อยเหมือนบ้านเราเนอะ ถ้าเป็นบ้านเรานี่ต้องมีคำวิเศษขยาย เช่น 

ตีนไก่ทอด
Cr. http://petmaya.com/

        นี่คือหนึ่งในเมนูที่เราชอบกินตอนเด็กๆ เห็นทีไรต้องยอมเสียเงิน 1 ในจำนวนทั้งสิ้น 3 บาทถ้วน (นี่คือจำนวนเงินที่เราได้ไปโรงเรียนสมัยมัธยม) ซื้อมาแทะอย่างเมามันชนิดเปื้อนมือ(ที่ใช้จับตีนไก่)ไม่พอ ยังมีรอยน้ำจิ้มลามติดอยู่รอบปากอีกแหนะ เมนูนี้เรียกได้ว่า "ฮอตฮิตยิดลมบน" ในหมู่เด็กประถมที่โรงเรียนเรามาก ไม่มีเด็กคนไหนในโรงเรียนที่ไม่เคยกินตีนไก่ทอด แต่เมื่อเวลาผ่านไป ตีนไก่ก็เริ่มหายไปจากชีวิตของเราและชาวคณะ ไม่ใช่เราเปลี่ยนใจไปชอบตีนไก่เกาหลี เพราะตอนนั้นคือยังไม่ได้รู้จักซีรีส์เกาหลี ยังไม่รู้จักเหล่าโอปป้าแต่อย่างใด แต่เป็นเพราะแม่ค้าเลิกทอดตีนไก่ขาย เหตุผลที่เลิกกิจการนี้เราไม่อาจทราบได้ เนื่องจากตอนนั้นยังเป็นเด็กน้อย ความสาระแนอยากรู้เลยน้อยไง เขาเลิกขาย เราก็ไม่กิน เราจบกัน  TT^TT
        หลังจากผ่านเหตุการณ์สูญเสียเมนูสุดมันส์ฟันหน้าไปในวัยที่ยังเป็นเด็กน้อยหอยสังข์ไปแล้วประมาณหลายปี ตีเป็นตัวเลขไม่ได้ ลืมนับ!!!
         เมื่อพรหมลิขิต(ตรงไหน)บันดาลให้เราเป็นเด็กติดซีรีส์เกาหลี จำได้นะว่าเรื่องแรกที่ดูคือ Full House แต่ดูบ้างไม่ดูบ้าง เพราะไม่มีอะไรให้ทำนอกจากนั่งดูโทรทัศน์ อารมณ์ตอนนั้นคือเรื่อยๆ ไม่ได้คลั่งไคล้อะไรขนาดพี่สาวข้างบ้าน หญิงสาวผู้คลั้งไคล้ในตัวพระเอกมากมาย ชนิดที่ตัดรูปในนิตยสาร หนังสือพิมพ์ เอาเป็นว่ามีรูปเฮียแกที่ไหน พี่แกตัดเก็บไว้หมด ไม่เว้นแม้แต่...
        "พี่ตัดรูปเรน(ชื่อจริงพระเอกซีรีส์)ไว้จริงดิ"
        "อือ เก็บไว้อย่างดีเลย ถ้าเรามีก็เก็บไว้ให้พี่ด้วยนะ"
        "หนูมีนะ เยอะด้วย แม่เพิ่งซื้อนมดั*ชี่มิ*ลมาให้กิน มีรูปเรนทุกกล่องเลย" เราก็ตอบแบบใสๆ ไร้จริตกวนตี*ใดๆ ทั้งสิ้น แต่พี่แกดันตอบรับแบบไม่ต้องเสียเวลาคิดเลยว่า
        "กินหมดแล้วก็เอากล่องมาให้พี่นะ"
        แม้ว่า Full House จะไม่สามารถทำให้เราบ้าคลั่งได้ แต่....มารู้ตัวอีกทีก็ติดซีรีส์เกาหลีงอมแงมยิ่งกว่าคนยิดเหล้าก็ไม่ปาน ซึ่งเราก็จำไม่ได้ว่าเรื่องอะไร แดจังกึมไหม หรือซีรีย์หนุ่มดอกไม้ทั้งสี่หน่อ หรือจะเรื่องอะไรก็ช่างมันเนอะ สรุปคือ เรากลายเป็นคนติดซีรีส์เกาหลีมากคนหนึ่ง
        ซีรีส์เกาหลีมีอะไรดีๆ เยอะแยะ ทั้งเนื้อเรื่อง การวางพล็อตที่ซับซ้อน ดาราหน้าตาดีมีฝีมือล้นจอ ทีมโปรดักชันเก่งๆ โลเกชันสวยๆ ทั้งหมดนี้คือสิ่งที่ทำให้เราเกิดความอยากได้อย่างไม่สิ้นสุด นอกจากหน้าตาหล่อละลายใจและบอดี้สุดเซ็กซี่ของพระเอกที่ยั่วเราได้ทั้งเรื่องแล้ว อาหารที่ชอบโผล่ออกมายั่วน้ำลายเราในหลายๆ ฉาก เกิดอย่างอยากได้อย่างไม่สิ้นสุด อยากกินจนอยากลงไปดิ้นแด่วๆ ประชดชีวิต เพราะไม่รู้จะไปหามากินดับความอยากได้ยังไง จะให้บินไปเกาหลีก็ขาดทุนทรัพย์ สุดท้ายเลยต้องจับกระทะกับตะหลิวขึ้นมา สวมวิญญาณแดจังกึมลงครัวทันใด
         แต่....

ที่นี่คือประเทศไทย หาใช่เกาหลีไม่!!!

ผู้หญิงหน้าใส(หัวไปไกลๆ) หัวใจไกลปืนเที่ยงอย่างเราๆ จะสรรหาหาของแบบนั้นได้เยี่ยงไร Y-Y


         แต่ด้วยหัวใจที่มุ่งมั่น และอยากเสียเงินจนตัวสั่นระริกดุ๊กดิ๊กราวกับหางหมาเวลาเจอเจ้าของ เราเลยตัดสินใจข้ามน้ำ(น้ำจากการล้างรถมอร์ ไซต์หน้าบ้าน) ข้ามทะเล(แอ่งน้ำขนาดใหญ่ตรงถนนดินลูกรังหน้าบ้าน) กระโดดขึ้นแมงกะไซต์ใหม่เอี่ยมอ่องที่แม่เพิ่งล้างเสร็จอย่างสง่างามราวกับกระโดดขึ้นหลังม้า ก่อนจะควบมันฝ่าทะเล(แอ่งน้ำที่กล่าวไปข้างต้น)ออกมาอย่างทุลักทุเล ก่อนจะมุ่งหน้าบินผ่านผิวดวงจันทร์(ถนนลาดยางที่เต็มไปด้วยหลุมบ่อมากมาย)ไปยังร้านอินเตอร์เน็ต
         หลังจากหามานานแสนนาน(ประมาณ 5 นาทีได้มั้ง) เราก็ได้พบกับตลาดเครื่องปรุงเกาหลีในเฟสบุ๊ก สำหรับคนที่อยู่ใกล้แหล่งซื้อไม่เข้าใจพวกห่างไกลอย่างเราๆ หรอก นี่คือทางเดียวที่จะไม่ต้องนั่งรถไปซื้อถึงกรุงเทพฯ 
         และเมนูที่เลือกมาวันนี้ก็คือ....

ทักบัล ตีนไก่สไตล์เกาหลี


Cr. http://memolog.blog.naver.com/
สูตรนี้แปลง(แบบมึนๆ) มาจากเว็บของเกาหลี รูปประกอบขอยืมมาจากเว็บเกาหลีอีกทีนะคะ เนื่งจากช่วงนี้ยังไม่มีเวลาทำกินเอง แต่ขอออกตัวว่า...เคยทำกินมาแล้วครั้งหนึ่งแบบวัตถุดิบขาดๆ เกินๆ แต่อร่อยเฉย ฮิฮิ

ส่วนผสมหลัก

  • ตีนไก่ 200 กรัม 
  • น้ำมันพืช 1 ช้อนโต๊ะ

ส่วนผสมน้ำต้มตีนไก่

  • น้ำเปล่า 4 ถ้วย
  • เกลือ 1/2 ช้อนชา
  • ใบกระวาน 2-3 ใบ (ไม่มีก็ไม่ต้องใส่ก็ได้ค่ะ)
  • กระเทียม 3 ซีก
  • ขิง 3 ช้อนโต๊ะ
  • หัวหอม 1/4 หัว
  • รากผักชี 2 ต้น
  • พริกไทยดำ 10 เม็ด
  • แอบเปิ้ลหั่น 3 ซีก

ส่วนผสมซอสเผ็ด

  • โคชูจัง 1.5 ช้อนโต๊ะ
  • พริกป่นเกาหลี 1.5 ช้อนโต๊ะ
  • ซอสถั่วเหลือง 2 ช้อนชา
  • น้ำตาล 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ไซรัป 1 ช้อนโต๊ะ (เราใช้น้ำเชื่อมแทน)
  • เกลือ 1/3 ช้อนชา
  • กระเทียมสับละเอียด 1/2 ช้อนโต๊ะ
  • ขิงสับละเอียด 1/2 ช้อนชา
  • น้ำลูกพลัม 1 ช้อนโต๊ะ (อันนี้หาได้ก็ใส่ไปเถอะจ้ะ)
  • สาเก 1 ช้อนโต๊ะ (อันนี้เราหาไม่ได้อ่ะ แถวบ้านมีแต่เหล้าขาว ไม่กล้าเอาใส่)
  • น้ำส้มสายชู 1ช้อนชา
  • พริกสด 1 เม็ดใหญ่
  • พริกไทยป่นเล็กน้อย

วิธีทำ

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

1. ล้างตีนไก่ให้สะอาด ตัดเล็บทิ้งให้หมดเพื่อความปลอดภัยในการรับประทาน แต่จะสะดวกกว่าถ้าเราซื้อตีนไก่ที่เขา(เล็บมือนาง)เอากระดูกออกแล้วมาทำว่าไหม? จากนั้นก็เอาตีนไก่ขึ้นใส่ตะแกรงพักไว้

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

2. ใส่น้ำลงไปในหม้อพร้อมด้วยเครื่องดับคาวทั้งหมดทั้งมวล อันได้แก่ กลือ ใบกระวาน กระเทียม ขิงหั่นแว่นหัวหอมใหญ่ รากผักชี พริกไทยดำ และแอบเปิ้ลหั่น ลงไปในหม้อ (ต้มเสร็จคือไร้กลิ่นคาวเลย)

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

3. ต้มน้ำใส่เครื่องดับคาวให้เดือด ใช้เวลาประมาณ 10 นาที แล้วค่อยนำตีนไก่ที่พักไว้เทลงไปต้มในหม้อในหน้อ 2-3 นาทีในกรณีตีนไก่ไร้กระดูกแบบในภาพ แต่ถ้าใช้ตีนไก่ธรรมดา เราก็จำเป็นต้องต้มตีนไก่ให้นานขึ้นกว่าเดิมหลายเท่าตัว จากที่เคยทำมาแล้ว เราต้มตีนไก่ธรรมดา 2-3 นาทีตามสูตร ปรากฏว่าเหนียวมาก เหนียวโคตรๆ ถ้าฟันไม่ดีจริงคือกินไม่ได้ 
         เพราะฉะนั้นท่านผู้มีอุปการะคุณทั้งหลายโปรดต้มตีนไก่ให้นุ่มก่อนปิดไฟ เพื่อสุขภาพเหงือก ฟันหน้า และอรรถรสในการกิน!!!


Cr. http://memolog.blog.naver.com/
4. หลังจากต้มตีนไก่ให้สุกและนุ่มตามความชอบของท่านแล้ว ก็ปิดไฟ เอาไก้ขึ้นใส่ตระแกงพักไว้ก่อน

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

5. เตรียมซอสเผ็ดด้วยการใส่ส่วนผสมคือ โคชูจัง พริกป่นเกาหลี ซอสถั่วเหลือง น้ำตาล ไซรัป(เปลี่ยนเป็นน้ำเชื่อมได้) เกลือ กระเทียมสับละเอียด ขิงสับละเอียด น้ำลูกพลัม(ถ้ามี) สาเก(ถ้ามี) น้ำส้มสายชู พริกสดสับละเอียด และพริกไทยป่นเล็กน้อย ลงในชามแล้วคนให้เข้ากัน

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

6. นำตีนไก่ต้มสุกมาคลุกดคล้ากับซอสเผ็ดที่เตรียมไว้ให้ทั่วถึง

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

7. นำไก่ต้มคลุกซอสเผ็ดมาผัดใส่กระทะให้ตีนไก่ซึมซับเอาน้ำซอสเผ็ดเข้าไป ใช้เวลาผัดประมาณ 2-3 นาที หรืออาจจะเพิ่มเวลาขึ้นเล็กน้อยถ้าอยากให้ตีนไก่แห้งมากขึ้นอีกนิด

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

8. ตักใส่จาน พร้อมเสิร์ฟความเป็นเกาหลี 

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

         แต่... ถ้าอยากให้ตีนไก่มีความหอมเพิ่มมากขึ้น ก็ให้นำไปอบหรือปิ้งเตาถ่านได้เช่นกัน

มาดูหน้าตาทักบัลที่ทำเสร็จแล้วกันค่ะ

Cr. http://memolog.blog.naver.com/


Cr. http://memolog.blog.naver.com/

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

Cr. http://memolog.blog.naver.com/

แถมจ้า....แถม
แถมรูปที่เราทำกินเอง

รสชาติผ่านเข้าขั้นดีและอร่อย แต่เหนียวเหลือเกิน รอบหน้าะว่าจะต้มให้เปื่อยก่อน สงสารฟันที่ไม่ค่อยดีของตัวเอง แฮ่


เข้าไปอ่านต้นฉบับที่ยังไม่แปลงได้ที่ http://memolog.blog.naver.com/PostView.nhn?blogId=yummycook&logNo=70180503368&parentCategoryNo=28&categoryNo=&viewDate=&isShowPopularPosts=false&from=postView

ปล. "อาโหล" คือชื่อเล่นๆ ของคนเขียนจ้า



        
ขอให้ทุกคนมีความสุขกับการทำอาหารค่ะ
ถ้ามีข้อผิดพลาดประการใดก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ค่ะ